วัคซีนสำหรับโรคติดเชื้อไวรัส Tilapia Lake Virus (TiLV) ในปลานิล ถ้าผู้อ่านท่านใดยังพอจะคุ้นๆ บ้างเกี่ยวกับบทความของหมอที่เคยเขียนให้อ่านกันก่อนหน้านี้นานพอสมควรแล้วในเรื่องโรคติดเชื้อไวรัส Tilapia Lake Virus (TiLV) ในปลานิล ที่มีเนื้อหาสรุปคร่าวๆ ถึงความสำคัญ สาเหตุของโรค ลักษณะอาการของปลาที่ติดเชื้อ วิธีการแพร่กระจายของเชื้อ ซึ่งโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสจึงไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะและยังไม่มีวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนให้ใช้เพื่อป้องกันโรค วิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมโรค คือมีการนำมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosecurity measures) มาใช้เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคระบาด ในครั้งนั้นหมอเคยแจ้งไว้ว่าหากมีข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับโรคนี้เพิ่มเติมจะนำเสนอในโอกาสต่อไปโดยปัจจุบันมีความคืบหน้าในเรื่องงานวิจัยวัคซีนสำหรับโรคติดเชื้อไวรัส TiLV ในปลานิล มาฝาก ถ้าท่านติดตามข่าววิจัยด้านเกษตรหรือการเลี้ยงสัตว์น้ำคงพอทราบว่าทีมวิจัยจากภาควิชาจุลชีววิทยาและวิทยาภูมิคุ้มกัน คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำโดย ผศ.น.สพ.ดร.วิน สุุรเชษฐพงษ์ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาโรคติดเชื้อไวรัส Tilapia Lake Virus (TiLV) ในปลานิล จึงได้ศึกษาวิจัย คิดค้น ทดลองวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสดังกล่าวขึ้นมาและได้ขอจดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนักวิจัยได้คิดค้นทดลองวัคซีนต้นแบบทั้งรูปแบบของวัคซีนเชื้อตายและวัคซีนเชื้อเป็น มีการเลี้ยงเชื้อไวรัสในห้องปฏิบัติการจนมีปริมาณเชื้อมากพอที่จะนำมาใช้เป็นต้นแบบการผลิตวัคซีน ก่อนนำมาทดสอบคุณภาพ ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน จากนั้นทดลองฉีดวัคซีนในปลาทดลองและตรวจระดับภูมิคุ้มกันรวมทั้งทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนทั้งระดับห้องปฏิบัติการและฟาร์มเพาะเลี้ยงปลา โดยผลการศึกษาพบว่าวัคซีนต้นแบบที่คิดค้นทั้งในรูปแบบการให้โดยวิธีแช่ และวิธีฉีดช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันปลา ลดอัตราป่วยและเพิ่มอัตราลดการใช้ยาและสารเคมีที่ไม่จำเป็นส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กลไกการทำงานของวัคซีนป้องกันโรคซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสจะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันแบบเซลล์ (Cell-Mediated Immunity) ที่ช่วยในการกำจัดเชื้อไวรัส ช่วยป้องกันการติดเชื้อและการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสรวมทั้งสร้างเซลล์ที่มีหน้าที่จดจำเชื้อไวรัสนั้นได้อย่างแม่นยำและยาวนาน เพื่อตอบสนองต่อการติดเชื้อในอนาคตหรือการทำวัคซีนครั้งต่อไป ทั้งนี้ระยะเวลาในการคงอยู่ของภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับวัคซีนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สุขภาพปลานิล สิ่งแวดล้อม เทคนิควิธีการให้วัคซีน และชนิดของวัคซีนที่ใช้การคิดค้นวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสดังกล่าวนับเป็นก้าวสำคัญของวงการวิจัย เพื่อช่วยสนับสนุนส่งเสริมการทำงานของเกษตรผู้เพาะเลี้ยงและผลงานวิจัยเป็นต้นแบบของงานวิจัยต่อยอดพัฒนาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส TiLV ในปลานิลและโรคติดเชื้ออื่นๆ ในปลาชนิดอื่นๆ ต่อไปในอนาคต สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเม)
Tilapia Lake Virus (TiLV) vaccine for tilapia A while ago, we’ve talked about Tilapia Lake Virus (TiLV) in the aspects of pathogenesis, clinical signs and disease transmission. The disease cannot be treated with antibiotic and there is no commercially available vaccine. The best way to mitigate the disease is to strictly adhere to farm biosecurity. But, today! We have a good news to update you. A team of scientists, led by Assist. Prof. Dr. Win Surachetpong, from the Department of Veterinary Microbiology and Immunology, Faculty of Veterinary Medicine, Kasetsart University has announced the success in TiLV vaccine development. The team cultured the virus in their laboratory in large quantity, enough to be used in vaccine production. The vaccine was then tested for efficacy and safety in both laboratory fish and farmed fish. The result showed that the vaccine was able to induce immunity against TiLV, reduce morbidity and increase survival rate. The success of vaccine will definitely help in reducing the use of antibiotics and other chemicals which will benefit the safety of both consumer and environment. As stated earlier, vaccine against virus activates through Cell-Mediated Immunity in killing and memorizing the virus. But, the use of vaccine is not 100% effective, which means fish that receive vaccine are not always stronger that the others. In order for vaccine to work effectively, you must do these things: - Keep your fish in good health. - Keep your fish in good environment. - Apply the right vaccination technique. We can say that the success in TiLV vaccine development is one of a major breakthrough that lead to a better health of cultured fish as well as our human being. Mintra Lukkana, DVM, MSc, PhD Pathradol Piamsomboon , DVM , PhD
|