พัฒนาการของไข่ที่ได้รับการผสม
วันนี้ได้เวลาพูดถึงการพัฒนาของไข่ปลานิลที่ได้รับการผสมนะคะ อาจ งง งง หน่อยเพราะวันนี้จะใช้คำศัพท์เฉพาะทางค่อนข้างเยอะ เผื่อให้ผู้อ่านของเราคุ้นตาคุ้นหูกันบ้างเวลาไปพบศัพท์แบบนี้ที่ไหนนะคะ โดยไข่ที่ผสมกับน้ำเชื้อแล้วจะเริ่มมีการเจริญพัฒนาซึ่งในทางวิชาการนั้นสามารถแบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ 1. ช่วงการพัฒนาของเอ็มบริโอ (embryonic development) เกิดหลังจากที่ไข่ผสมกับน้ำเชื้อ พอตัวอ่อนปลานิลฟักออกจากไข่ จะถือว่าจบช่วงนี้ ซึ่งในช่วงแรกที่ว่านี้ ยังแบ่งบ่อยอีกเป็น 7 ระยะ คือ (1) ระยะไซโกต (zygote) (2) ระยะคลีเวจ (cleavage) (3) ระยะบลาสทูลา (blastula) (4) ระยะแกสทรูลา (gastrula) (5) ระยะแบ่งส่วนลำตัว (segmentation) (6) ระยะฟาริงคูลา (pharyngula) ระยะนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างของอวัยวะที่ใช้ในระบบทางเดินหายใจ จะเริ่มมีการสร้างหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด มีพัฒนาของเลนส์ตา รวมทั้งเริ่มมีการพัฒนาของสมองน้อย และสุดท้ายคือ (7) ระยะฟักออกจากไข่ (hatching) ระยะนี้ ตัวอ่อนจะมีการยื่นส่วนหางหรือหัวออกมาแล้วก็มีการพัฒนาอวัยวะที่ใช้หายใจ รูทวาร และสมองส่วนกลางอย่างสมบูรณ์ จะสังเกตว่าหัวของตัวอ่อนจะมีขนาดใหญ่ด้วย 2. ช่วงการพัฒนาของตัวอ่อน (larva development) ช่วงนี้จะนับตั้งแต่หลังฟักออกมาจากไข่ ใช้ชีวิตเป็นลูกปลาเรื่อยๆ จนถึงถุงไข่แดงที่ติดอยู่บริเวณท้องยุบหายไปเลยนะคะ ระยะนี้จะมีพัฒนาการของขากรรไกรของตัวอ่อนลูกปลานิล จะเกิดการแยกออกจากกันของขากรรไกรบนและล่าง เริ่มเคลื่อนไหวแปลว่าลูกปลาใกล้จะกินอาหารได้แล้ว สำหรับแผ่นปิดเหงือก หัวใจ ครีบที่ตำแหน่งต่างๆ ของร่างกาย สีตามลำตัวที่บ่งบอกลักษณะเฉพาะของปลานิลจะปรากฏ รวมทั้งถุงลมก็จะมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นด้วย พร้อมกับที่ถุงไข่แดงยุบหายไป 3. เมื่อถุงไข่แดงยุบหายไป ระยะนี้จะนับเป็นช่วงลูกปลานิลรุ่น (early juvenile) ลูกปลาที่ถุงไข่แดงยุบแล้วจำเป็นต้องหาอาหารกิน ตั้งแต่ระยะนี้จะมีการพัฒนาของระบบสืบพันธุ์ต่อไป ที่เล่าไปเป็นพัฒนาการตั้งแต่เป็นเอ็มบริโอจนถึงถุงไข่แดงยุบ ตั้งแต่ที่ตามองไม่เห็นจนถึงพอสังเกตได้ ทีนี้ลองมาดูสภาพจริงๆ ที่พบได้ง่ายๆ ด้วยตาเปล่าตั้งแต่แรกบ้างว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร แม่ปลาจะอมไข่ที่ผสมกับน้ำเชื้อเอาไว้ ในช่วงนี้แม่ปลาจะกินอาหารไม่ได้เลย และจะมีการขยับปากเล็กน้อยให้น้ำในบ่อไหลผ่านในช่องปาก เพื่อให้ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วได้รับน้ำและอากาศ อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ระยะเวลาในการเจริญของไข่ และการฟักเป็นตัวจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิแวดล้อม ซึ่งก็คืออุณหภูมิของน้ำ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน โดยธรรมชาติปกติถ้าไม่มีการเก็บไข่ที่ผสมแล้วจากปากแม่ปลา ลูกปลานิลที่ฟักออกมาในตอนแรกๆ จะว่ายน้ำรวมตัวกันอยู่แถวๆ หัวของแม่ปลา ถ้ารู้สึกว่าไม่ปลอดภัยลูกปลาก็จะว่ายน้ำเข้าไปหลบในปาก ช่วงแรกที่ลูกปลาฟักออกมาจากไข่นั้นจะมีถุงไข่แดงติดอยู่ที่บริเวณท้องของลูกปลาด้วย เมื่อเวลาผ่านไป ถุงไข่แดงนี้จะค่อยๆ ยุบ และหายไปในที่สุด ระยะที่ถุงไข่แดงยุบหายไปนี้ลูกปลาก็จะเริ่มกินอาหารขนาดเล็กๆ ไรน้ำหรือพืชได้ หลังจากช่วงนี้ไปสัก 3 อาทิตย์ ลูกปลาจะเริ่มว่ายน้ำแยกออกจากฝูงเพื่อหากิน สำหรับระบบการเพาะเลี้ยงปลานิลจะมีการจัดการเรื่องระบบโรงเพาะฟัก (hatchery) เพื่อช่วยในการดูแลพัฒนาของไข่ปลานิล และลูกปลานิลระยะต่างๆ โดยจัดระบบจำลองสภาพที่เกิดขึ้นภายในปากแม่ปลา ซึ่งทำให้สามารถควบคุมปริมาณการผลิตลูกปลาได้มีประสิทธิภาพกว่าการปล่อยให้ลูกปลาเจริญในปากแม่ปลาตามธรรมชาติ
จากข้อมูลจะเห็นว่าในช่วงระยะเวลาแค่ไม่กี่วันเกิดอะไรที่สำคัญขึ้นมากมาย ที่บางอย่างเราไม่สามารถสังเกตและมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งพัฒนาการเหล่านั้นสำคัญต่อคุณภาพของลูกปลาที่ฟักออกมาและเจริญเป็นลูกปลานิล เป็นพ่อแม่พันธุ์หรือเป็นปลานิลขุนต่อไป ดังนั้น ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดการฟาร์มในระยะนี้ เช่น อาหารที่ให้พ่อแม่พันธุ์ คุณภาพน้ำ ความระมัดระวังและการจัดการในช่วงที่มีการเก็บไข่หรือตัวอ่อนจากปากแม่ปลา การเคลื่อนย้ายไข่และตัวอ่อนลูกปลานิลเข้าไปในโรงเพาะฟัก การจัดการโรงเพาะฟักเพราะเป็นหนึ่งในการจัดการที่มีผลกระทบต่อคุณภาพของผลผลิตของฟาร์มปลานิลอย่างมาก หากต้องการปลานิลคุณภาพดีเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เลยค่ะ สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเม)
Development of tilapia embryo Today we will talk about the development of tilapia egg after fertilization. You might find it a little bit confusing because we have to use some technical terms, however this might a good opportunity to learn. Development of tilapia embryo can be divided into 3 phases, including 1. Embryonic development This phase begins right after fertilization until the egg hatches. This phase can be sub-divided into 7 stages, including (1) zygote, (2) cleavage, (3) blastula, (4) gastrula, (5) segmentation, (6) pharyngula, and (7) hatching. Pharyngula stage is a stage when respiratory system, heart and circulation system are developed, as well as central nervous system such as cerebellum (part of a brain) and eyes. In “hatching stage”, head and tail of the larvae will poke out of the egg. Respiratory system and brain will be fully developed. 2. Larva development This phase starts from larvae hatch until yolk sac is completely absorbed. In this phase, upper jaws are developed. Upper and lower jaw are separated which means the fish can start eating. Operculum, heart and fins will become more clear. Air sacs are developed and yolk sac is absorbed. 3. Early juvenile When yolk sac is completely absorbed, this is the beginning of early juvenile phase. Fish will only depend on outside feed only. Reproduction system will start to develop from now on. These developmental stages that we have described may be hardly seen by the empty eyes, what about what we can observe in nature? In nature, female fish keep eggs in their mouth, so they won’t be able to consume any food. Female slightly open their mouth to allow water to pass through, for the eggs to receive oxygen and fresh water. As mentioned earlier, hatching time depends on water temperature. Normally, it should take 7-10 days. After hatching, fish larvae mingle close to their mother’s mouth and when they feel unsafe, they will swim back into their mother’s mouth. After yolk sac is used up, fish fry will start eating small water crustacean or water flea and algae. After 3 weeks, juvenile fish will leave their mother and start feeding on their own. For tilapia hatchery, they have to mimic the environment in female’s mouth in order to take care larvae in each stage. By this way, the production of tilapia fry can be controlled and managed much more efficiently than in natural environment. As you can see, there are so many things that happen and sometimes you cannot see with the bare eyes. These developmental stages are important to the quality of tilapia larvae which later will become grow-out fish or replacement broodstock. Therefore, hatchery operators should pay close attention to every details from broodstock feed management, water quality, egg collection from female’s mouth, transportation of eggs and fry, and hatchery management. Keep in mind, good hatchery management is a fundamental factor in producing good quality tilapia. Mintra Lukkana, DVM, MSc, PhD Pathradol Piamsomboon , DVM , PhD
|