พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558
ถ้าใครชอบติดตามอ่านประกาศ หรือกฎหมายที่ทางราชการออกมาอยู่เรื่อยๆ คงพอจะจำกันได้ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ วันที่ 11 เมษายน 2562 ในเวปไซต์ราชกิจจานุเบกษา (http://www.ratchakitcha.soc.go.th) ได้เผยแพร่ ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดโรคระบาดสัตว์เพิ่มเติม ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นประกาศเพิ่มเติมฉบับที่ 3 แล้วนะคะ โดยระบุโรคระบาดสัตว์เพิ่มเติม 2 โรค คือ โรคอีเอชพี (EHP) ภาษาอังกฤษใช้ชื่อเต็มๆ ว่า “Hepatopancreatic microsporidioisis caused by Enterocytozoon hepatopenaei” และ โรคเอสเอชไอวี (SHIV) ภาษาอังกฤษใช้ชื่อเต็มๆ ว่า “Shrimp hemocyte iridescent virus” ทั้ง 2 โรคนี้ก่อให้เกิดความเสียหายในกุ้ง (ไว้จะเล่าให้ฟังในบทความถัดๆ ไปค่ะ) อันที่จริงแล้วประเทศไทยเรามีพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ฉบับก่อนหน้านี้ที่ใช้กันมานานแล้ว คือฉบับปี 2499 (ก่อนหน้าฉบับปี 2499 นี้ก็มี พ.ร.บ.โรคระบาดปศุสัตว์และสัตว์พาหนะใช้อยู่ แต่มีหลายฉบับ ไม่สะดวกกับการนำไปใช้ปฎิบัติงานจึงมีการรวบรวม จัดทำและเปลี่ยนชื่อเป็น พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499) สำหรับ พ.ร.บ. ฉบับปี 2558 นี้ ถือเป็นฉบับล่าสุดที่จัดทำขึ้นด้วยเหตุผลที่ว่าฉบับ 2499 นั้นเก่ามากๆ แล้ว เนื้อหาที่ระบุไว้อาจไม่เหมาะสมกับสถานการณ์การเกิดโรคระบาดสัตว์ในปัจจุบัน เลยมีการพิจารณาปรับปรุงบทบัญญัติ เนื้อหา บางเรื่องให้ทันสมัยขึ้น โรคที่ประกาศอยู่ใน พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ 2558 ไม่ได้มีแค่โรคในกุ้งนะคะ แต่มีโรคสำคัญหลายโรคในสัตว์หลากหลายชนิดเลย ในช่วงแรกของการออกพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ 2558 นั้นมีการประกาศโรคระบาดทั้งสิ้น 17 โรค คือ กาฬโรคเป็ด โรคไข้หวัดนก โรคแซลโมเนลลา โรคทริคิเนลลา โรคนิวคาสเซิล โรคบรูเซลลา โรคปากและเท้าเปื่อย โรคพิษสุนัขบ้า โรครินเดอร์เปสต์ โรคเลปโทสไปรา โรคโลหิตจางติดเชื้อในม้า โรควัวบ้า โรคสมองอักเสบนิปาห์ โรคอหิวาต์สุกร โรคแอนแทรกซ์ โรคเฮโมรายิกเซปทิซีเมีย และวัณโรค ภายหลังจากนี้ยังมีประกาศโรคเพิ่มเติมในสัตว์อีกหลายชนิด ได้แก่ โรคในสัตว์ปีก (10 โรค) สัตว์เคี้ยวเอื้อง (25 โรค) สัตว์กระเพาะเดี่ยว (18 โรค) ผึ้ง (11 โรค) โรคระบาดในสัตว์หลายชนิด (21 โรค) และโรคระบาดในสัตว์น้ำ (40 โรค) จนถึงปัจจุบันนี้ (เมษายน 2562) มีประกาศรายชื่อโรคระบาดสัตว์รวมกันถึง 142 โรคแล้วค่ะ การจัดทำ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ นอกจากจะประกาศรายชื่อโรคระบาดสัตว์แล้วยังมีการกำหนดชนิดสัตว์เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคระบาดที่เกิดกับสัตว์ มีการระบุบทบาทหน้าที่การทํางานของสัตวแพทย์ สารวัตร และพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและควบคุม โรคระบาดสัตว์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งส่งผลคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิต (โรคระบาดสัตว์บางโรคสามารถติดต่อมาถึงคนได้) และทรัพย์สินของคนไทย และเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเม)
|