โรคอีเอชพี, EHP, กุ้ง
ครั้งที่แล้วพูดถึงโรคระบาดสัตว์น้ำเพิ่มเติม 2 โรค ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ที่พึ่งจะประกาศในเวปไซต์ราชกิจจานุเบกษา ถ้ายังไม่ลืมกันหนึ่งในนั้นก็คือโรคอีเอชพี (EHP) หรือชื่อภาษาอังกฤษเต็มๆ ว่า “Hepatopancreatic microsporidioisis caused by Enterocytozoon hepatopenaei” โรค EHP เป็นโรคที่พบได้ในกุ้ง มีสาเหตุเกิดจากเชื้อไมโครสปอริเดีย หรือถ้าไปอ่านบทความบางที่จะเขียนว่าไมโครสปอริเดียน เชื้อไมโครสปอริเดีย คืออะไร ไมโครสปอริเดียเป็นปรสิตในอาณาจักร (Kingdom) กลุ่มเชื้อรา (Fungi) ไฟลัมไมโครสปอรา วงศ์ (Family) Enterocytozoonidae และสกุล (Genus) Enterocytozoon โดยเชื้อก่อโรค EHP คือโปรโตซัว Enterocytozoon hepatopenaei ซึ่งมีขนาดประมาณ 0.7-1 ไมโครเมตร เชื้อนี้จัดเป็นเชื้อฉวยโอกาสมักพบได้กรณีที่กุ้งอ่อนแอ หรือมีการจัดการที่ไม่เหมาะสมและโน้มนำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ กุ้งที่ติดเชื้อโปรโตซัวบางครั้งอาจไม่พบอาการแสดงออกที่จำเพาะกับการติดเชื้อ และบางครั้งสามารถพบลักษณะผิดปกติได้ กุ้งจะมีขนาดแตกต่างกัน (แตกไซส์) เจริญเติบโตช้า พบว่าบริเวณลำตัว ใต้เปลือกมีจุดสีขาวขุ่นแทรกอยู่ในเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ หากเปิดดูอวัยวะภายในอาจพบจุดขาวนี้แทรกในอวัยวะได้เช่นกัน สำหรับวิธีวินิจฉัยยืนยันการติดเชื้อนั้นต้องใช้การยืนยันโดยการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง ประมาณ 1,000 เท่าซึ่งสามารถตรวจพบเชื้อได้บริเวณตับ-ตับอ่อน (hepatopancreases) หรือใช้การตรวจด้วยวิธีการระดับโมเลกุล (molecular technique) มีรายงานการติดเชื้อโปรโตซัวชนิดนี้ทั้งในกุ้งกุลาดำและกุ้งขาว นอกจากนี้ยังมีรายงานการพบเชื้อนี้ในกุ้ง Penaeus japonicas อีกด้วย สำหรับประเทศไทยในปี 2547 ได้ตรวจพบการติดเชื้อดังกล่าวครั้งแรกในกุ้งกุลาดำ จากนั้นก็พบรายงานการพบโรค EHP ในหลายประเทศเพื่อนบ้านของไทยและประเทศในแถบเอเซียแปซิฟิก เช่น เวียดนาม มาเลเซีย ออสเตรเลีย โดยเป็นการพบเชื้อก่อปัญหาในกุ้งกุลาดำ นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบเชื้อโปรโตซัวนี้ในกุ้งขาว ในประเทศอินโดนีเซีย อินเดียอีกด้วย การระบาดของโรคนี้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจการเลี้ยงกุ้งเป็นอย่างมาก เนื่องจากพบการติดโรคแพร่ระบาดภายในบ่อเลี้ยงเดียวกันได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันก็ยังคงพบว่าโรงเพาะเลี้ยงกุ้งหลายๆ โรงยังมีการให้อาหารพ่อแม่พันธุ์ด้วยอาหารสด ไส้เดือนทะเล (polychaete worms) และหอยเพื่อเป็นการเพิ่มผลผลิตนอเพลียส ซึ่งการให้อาหารสดจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคและมีผลต่อการจัดการระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ทั้งนี้ ในปัจจุบันพบว่าสามารถตรวจพบเชื้อ EHP ในอาหารสดดังกล่าวแต่ยังไม่สามารถยืนยันกลไกการติดเชื้อ EHP ได้ ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและการระบาดของโรคในฟาร์ม จึงมีข้อแนะนำสำหรับฟาร์มว่าควรงดใช้อาหารสดในการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์และสามารถเลือกใช้อาหารแช่แข็งทดแทนการให้อาหารสดแก่พ่อแม่พันธุ์ที่ปลอดเชื้อ EHP เพื่อลดความเสียหายจากโรคดังกล่าวในระบบการผลิต
สำหรับใครที่อ่านแล้วงงกับคำว่าระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) สามารถย้อนกลับไปอ่านบทความเก่าๆ ที่หมอได้เคยอธิบายถึงเรื่องนี้ไว้ได้นะคะ บอกไว้เลยว่าระบบนี้มีความสำคัญมานานแล้ว แต่ปัจจุบันยิ่งมีความสำคัญมากๆ กับวงการผลิตสัตว์ทั้งสัตว์บก สัตว์น้ำ เป็นหนึ่งหัวใจสำคัญที่ทำให้มีการผลิตสัตว์อย่างยั่งยืนเลยค่ะ ทำไมถึงสำคัญมากๆ ในปัจจุบันไว้ครั้งหน้าจะเล่าให้ฟังนะคะ สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเม)
|