การจัดการโรคข้ามพรมแดนและโรคติดต่ออุบัติใหม่
ครั้งก่อนที่เล่าข่าวไปเกี่ยวกับเรื่องงานสัมมนาวิชาการการจัดการสุขภาพสัตว์น้ำขององค์การสุขภาพสัตว์โลก หรือ Global Conference on Aquatic Animal Health: Collaboration, sustainability: our future ก็ได้ไปนั่งดูคลิปงานสัมมนาย้อนหลัง และพบว่ามีเรื่องน่าสนใจหลายๆ เรื่องที่น่าจะเอามาเขียนและแบ่งปันให้ทราบกัน แต่สำหรับบทความครั้งนี้ขอฉีกแนวจากวงการสัตว์น้ำสักนิด เพราะอยากเล่าเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ข่าวปศุสัตว์ช่วงนี้มากๆ ถ้าใครตามข่าวหรือช่วงนี้ได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ จะสังเกตว่าทุกประเทศแม้แต่บ้านเราเองเข้มงวดเรื่องการนำเข้าสัตว์มีชีวิต เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้เข้มงวดกับการตรวจการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสุกร (เชื้อคงทนในสภาพแวดล้อมสูง) หลายเดือนที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกพบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดความสูญเสียกับสุกรลุกลามไปถึงระดับอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกร คือ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ African Swine Fever (ASF) นั่นเอง ทำให้ต้องมีการตรวจสอบการลักลอบและการนำเข้าเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวด เพราะมีความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสจะติดมากับสินค้าเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์และมีติดต่อมายังสุกรที่เลี้ยงในประเทศได้ ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร โรคนี้พบได้เฉพาะในสุกรและไม่ติดต่อสู่คน ทำให้เกิดอัตราการตายสูงในสุกร แต่จัดเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงทางอาหารในระดับโลก สำหรับประเทศไทย ยังไม่พบรายงานการระบาดของโรคนี้ในประเทศ ทั้งๆ ที่รอบบ้านเรา เพื่อนบ้านหลายประเทศพบการระบาดของโรคและสูญเสียกันมากแล้ว จากข่าวการระบาดของโรคในหลายประเทศที่นำเสนอผ่านสื่อ ฟาร์มที่มีการระบาดของโรคจำเป็นจะต้องทำลายสุกรที่ติดเชื้อและสงสัยว่าติดเชื้อไปหลายแสนตัว ปิดฟาร์ม ปิดโรงฆ่าสัตว์ โรงแปรรูปสุกร เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรค และยังมีมาตรการหลายๆ อย่างที่ต้องดำเนินการเพื่อควบคุมโรคและต้องเป็นมาตรการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับมาตรฐานขององค์การสุขภาพสัตว์โลก เพื่อการควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้เกิดความสูญเสียเป็นวงกว้าง โดยมาตรการดังกล่าวประกอบด้วยการป้องกันโรค วางแผนการเฝ้าระวังโรค การจัดการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosecurity) ในการผลิตสุกร การตามสอบ (traceability) การควบคุมการเคลื่อนย้ายสุกร (movement control) การทำลายสัตว์ (stamping out) ทำลายซากสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ปนเปื้อน นอกจากนี้มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการพัฒนาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก และสร้างความตระหนักถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคระบาดนี้ให้แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนทั่วไป นักท่องเที่ยวไม่ให้นำเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ข้ามพรมแดนไปยังประเทศต่างๆ สำหรับการจัดการป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรของประเทศไทยนั้น มีการดำเนินการอย่างเข้มแข็ง มีแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคนี้เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อธุกิจสุกรในบ้านเรา มีการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค มีการจัดสร้างโรงทำลายซากสัตว์ติดเชื้อเพื่อการทำลายอย่างถูกวิธี ไม่ให้ตกค้างและแพร่กระจายรวมทั้งไม่ให้มีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม หากเกิดการระบาดของโรคมีการคาดการณ์ตัวเลขความเสียหายจะสูงมากกว่า 70,000 ล้านบาท และยังมีผลต่อเนื่องไปถึงการส่งออกเนื้อสุกรชำแหละ เนื้อสุกรแปรรูป เนื้อสุกรมีชีวิต และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างมหาศาล เช่น ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจเวชภัณฑ์ และยังต้องเสียเงินไปกับการเยียวยา ช่วยเหลืออาชีพและความเป็นอยู่เกษตรกรอีกมากซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และใช้ระยะเวลายาวนานในการแก้ไข ถ้าประเทศไทยป้องกันโรคได้อย่างเข้มแข็งก็สามารถสร้างโอกาสในการส่งออกสินค้าปลอดโรคนี้ไปยังประเทศอื่นที่ขาดแคลนสุกรได้ เช่น จีน เวียดนาม และกัมพูชา ดังนั้นในการจัดการโรคข้ามพรมแดนและโรคติดต่ออุบัติใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็แล้วแต่ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เกษตรกร ผู้ประกอบการ ภาครัฐและผู้เกี่ยวข้องควรใส่ใจข่าวสารความเป็นไปของโลกปัจจุบันเพื่อเสริมสร้างความรู้และวางแผนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเม)
|