การดำเนินการเกี่ยวกับโรค Tilapia Lake Virus (TiLV) ในบริบทโลก (1)
ถ้าผู้อ่านยังจำกันได้ในบทความก่อนหน้าที่หมอเคยเขียนไว้เรื่องเกี่ยวกับโรค Tilapia Lake Virus หรือ ทีไอแอลวี (TiLV) ในปลานิล โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสจึงไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ และยังไม่มีวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนให้ใช้สำหรับการป้องกันโรค วิธีที่ดีที่สุดคือการจัดการที่ดีเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายการเกิดโรค
อย่างที่ทราบกันดีว่าปลานิล (Oreochromis niloticus) เป็นปลาน้ำจืดเศรษฐกิจที่สำคัญมากในวงการผลิตสัตว์น้ำไม่เฉพาะแค่ในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่เป็นปลาเศรษฐกิจที่สำคัญในระดับโลกเลยทีเดียวเพราะมีกำลังการผลิตสูงทั่วโลก ซึ่งระบบการผลิตที่หนาแน่นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคก็ส่งผลต่อการจัดการฟาร์มที่ยากขึ้น เพื่อจะทำให้ระบบการผลิตมีคุณภาพ ระบบการเลี้ยงที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่ได้มาตรฐานอาจโน้มนำให้ฟาร์มพบความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ ซึ่งโรค Tilapia Lake Virus ก็จัดเป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่ Tilapia Lake Virus หรือ Tilapia tilapenivirus จัดเป็น RNA ไวรัส ปลาที่ติดเชื้อสามารถพบอาการทางคลินิก ได้แก่ ตาโปน (exophthalmia) ช่องท้องขยาย มีแผล รอยโรคที่ผิวหนัง ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่จำเพาะว่าเป็นอาการที่เกิดจากการติดโรค TiLV เพียงอย่างเดียว เมื่อตรวจทางห้องปฏิบัติการจะสามารถพบรอยโรคที่ตับ เซลล์ตับอักเสบและรวมตัวกัน และอาจพบรอยโรคได้ในอวัยวะภายในอื่น ในบางครั้งพบการเกิดโรค TiLV ร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรีย ปัจจุบันพบรายงานการเกิดโรคติดเชื้อ TiLV ในหลายพื้นที่การเลี้ยงปลานิล ทั้งในทวีปเอเชีย อเมริกาและแอฟริกา เช่น ประเทศเอกวาดอร์ อิสราเอล โคลัมเบีย ประเทศไทย อียิปต์ ยูกันดา แทนซาเนีย อินโดนีเซีย อินเดีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน มาเลเซีย เปรู และเม็กซิโก การระบาดของโรคทำให้เกิดความสูญเสียเป็นอย่างมาก พบอัตราการตายได้ตั้งแต่ 9.2 ถึง 90% และมักพบการติดเชื้อในปลานิ้วและปลาวัยอ่อน มากกว่าปลาที่โตแล้ว การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างรวดเร็วไปยังประเทศต่างๆ แสดงให้เห็นว่าช่องทางการจำหน่ายหรือพันธุ์ปลาเป็นสาเหตุสำคัญหลักของการติดเชื้อ การเคลื่อนย้ายสัตว์น้ำแบบผิดกฎหมายก็มีส่วนสำคัญในการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งความแม่นยำของวิธีการตรวจการติดเชื้อมีความสำคัญต่อการควบคุมโรคด้วย ครั้งหน้าม่าอกันว่าการจัดการในบริบทโลกต่อปัญหา TiLV นั้นเป็นอย่างไรค่ะ สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเม)
|