เว้นจากบทความสไตล์ฟาร์มกันบ้าง หันมามองสิ่งที่เป็นกระแสในปัจจุบันจากสภาพการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตครั้งใหญ่ของหลายๆ คนทั่วโลกเลยนะคะ ไม่เฉพาะในประเทศไทยที่มีการรณรงค์ขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อหยุดเชื้อ แต่มาตรการนี้ถูกนำไปใช้ในหลายประเทศทั่วโลกเนื่องจากข้อจำกัดและปัญหาที่เกิดขึ้นหลายๆ อย่างในการจัดการและการรับมือกับโรค COVID-19

หากติดตามข่าวจะทราบว่าหลายๆ ประเทศมีทรัพยากรไม่พอที่จะรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน แม้แต่ประเทศสหรัฐอเมริกาเองที่เป็นผู้นำของโลกในด้านสาธารณสุข การรักษาพยาบาลก็ยังมัปัญหาเรื่องการรับมือกับ COVID-19 จำนวนโรงพยาบาลที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับผู้ป่วยมีไม่เพียงพอ ห้องความดันลบสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อมีจำกัด เตียงไม่พอ ขาดแคลนหน้ากากอนามัย เครื่องช่วยหายใจและเครื่องพยุงปอดไม่เพียงพอต่อผู้ป่วยอาการหนัก อุปกรณ์สิ้นเปลืองถูกใช้ไปทุกวันและหามาทดแทนยากเนื่องจากมีความต้องการสูงขึ้นพร้อมกันทั่วโลก นอกจากนี้ ทรัพยากรบุคคลแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสนับสนุนทางการแพทย์ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับการรักษาผู้ป่วยปริมาณมากในคราวเดียวกัน ทำให้รัฐบาลของหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยต้องรณรงค์เรื่องการอยู่บ้านกันมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงและโอกาสในการแพร่กระจายเชื้อโรคไปเรื่อยๆ ในหมู่คนที่พบปะกัน นอกจากการขอให้พยายามอยู่ที่บ้าน ออกไปข้างนอกเท่าที่จำเป็นแล้วยังพ่วงไปด้วยเรื่องของการเรียนหนังสือจากบ้าน learn from home หรือทำงานที่บ้าน work from home สำหรับบางอาชีพที่สามารถทำได้

การที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านนานๆ บวกกับการที่หลายๆ คนระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้นออกนอกบ้านน้อยลง เพื่อลดความเสี่ยงในการออกไปติดเชื้อโรคจากนอกบ้านทำให้ภาคธุรกิจมีการปรับตัวมากขึ้น มุ่งเน้นรูปแบบการให้บริการแบบ online หรือโทรสั่งสินค้าให้มาส่งที่บ้านเติบโตมากขึ้น ที่ผ่านมาเราเรียกวิธีการขายแบบนี้ว่า E-Commerce หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ วิธีนี้ช่วยเพิ่มช่องทางการขายโดยที่คนขายไม่ต้องมีหน้าร้านเป็นตัวตนจริงๆ ก็ได้ ไม่มีค่าบำรุงรักษาสถานที่ขาย ขายได้ทั่วโลก ขายได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 7 วัน ไม่ต้องปิดร้าน ไม่ได้รับผลกระทบจากการถูกปิดร้านในช่วงเคอฟิวด้วย ไม่ต้องมีพนักงานต้อนรับ ใช้เพียงพนักงานดูแลระบบของออนไลน์ก็สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างเป็นระบบและรวดเร็ว การจัดการเรื่องเงินก็สามารถทำได้ผ่านบัญชีออนไลน์และบัตรเครดิต ก็เป็นข้อดีและความสะดวกเท่าที่จะนึกได้ขึ้นมาทันทีสำหรับการขายในรูปแบบนี้นะคะ แต่การค้าในลักษณะนี้ก็ยังมีข้อจำกัดสำหรับผู้ซื้อที่จะซื้อของจากร้านค้าประเภทนี้ สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงเรื่องของความน่าเชื่อถือของร้านค้า ว่าถ้าหากสั่งซื้อของไปแล้วจะไม่ถูกโกง ได้ของมีคุณภาพ มีคุณสมบัติตรงตามที่แจ้งไว้หรือโฆษณาไว้ ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบได้ว่าร้านค้าได้รับการรับรองอย่างถูกต้องจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น มีหลักฐานการขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้คนซื้อมั่นใจ นอกจากนี้ระบบการจ่ายเงินต้องปลอดภัยและมีประสิทธิภาพทั้งคนขาย คนซื้อทำธุรกรรมได้อย่างมั่นใจ ข้อมูลทางธุรกรรมปลอดภัยไม่ถูกเปิดเผยไปที่อื่นนะคะ

หลายท่านที่อ่านบทความนี้คงเคยใช้บริการ E-Commerce ในหลายรูปแบบที่ว่ามาอยู่บ้าง ซึ่งปัจจุบันจะเห็นว่าเติบโตมากขึ้นชัดเจนเลยโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับการขายสินค้าเพื่อการบริโภค อาหารตามสั่ง ของใช้ในบ้าน อุปกรณ์ไฟฟ้า ไอที เสื้อผ้า นอกจากนี้ ทราบไหมว่าสำหรับสินค้าเกษตรเองก็มีหลายๆ ช่องทางที่เป็นรูปแบบออนไลน์ให้ผู้ซื้อเลือกซื้อเหมือนกัน ระบบแบบนี้สำหรับสินค้าเกษตรในหลายๆ ประเทศมีมานานแล้ว แต่ประเทศเรายังไม่ได้มุ่งเน้นการจัดทำแพลทฟอร์มการขายแบบนี้มากนัก ทำให้ช่องทางการขายออนไลน์มีน้อยมาก ผู้ซื้อที่สนใจเข้าถึงได้ยาก มีตัวเลือกการซื้อที่ไม่หลากหลาย ไม่ดึงดูดใจให้ซื้อของผ่านช่องทางนี้มากเท่ากับการซื้อแบบปกติที่เดินไปซื้อที่ตลาด หรือซุปเปอร์มารเกต ดังนั้นในวิกฤตของ COVID-19 เราจะเห็นช่องทางการขายแบบ E-Commerce ของสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยให้คนเข้าถึงและมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น สำหรับในส่วนของสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำถ้าหากจะขายแบบ online แล้วควรต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง บทความหน้าจะเล่าเรื่อง E-commerce สำหรับตลาดสัตว์น้ำผ่านหลัก 7P ค่ะ

สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเม)
อ.น.สพ.ดร. ภัทรพล เปี่ยมสมบูรณ์ (หมอเอก)