
น้องใหม่ตัวร้ายไวรัสในกุ้ง Decapod Iridescent Virus 1 (DIV1) สามศตวรรษที่ผ่านอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้งต้องเจอปัญหาโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิต และเมื่อเร็วนี้ๆ มีข่าวการระบาดของโรคเกิดขึ้นเป็นการพบอุบัติการณ์การเกิดโรคไวรัส Decapod Iridescent Virus 1 (DIV1) ในประเทศจีน ซึ่งจัดเป็นประเทศที่เป็นผู้ผลิตสัตว์น้ำรายใหญ่ของโลก การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส DIV1 สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเทียบเท่ากับการระบาดของโรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์ (African Swine Fever) ที่พบในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกร โรคกุ้ง DIV1 มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส Decapod iridescent virus 1 ซึ่งมีรายงานการพบการติดเชื้อไวรัสนี้ครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อกลางปี 2557 ในเครย์ฟิชก้ามแดง (Cherax quadricarin) และได้ตั้งชื่อเป็น Cherax quadricarinatus iridovirus (CQIV) ต่อมาในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน ก็ยังตรวจพบไวรัสในกลุ่มเดียวกันนี้จากกุ้งขาวแวนนาไมและตั้งชื่อเป็น Shrimp Hemocyte Iridescent Virus (SHIV) ไวรัสทั้งสองชนิดมีโครงสร้างที่คล้ายกัน โดย CQIV สามารถทำลายเนื้อเยื่อต้นกำเนิดเม็ดเลือด (hematopoietic tissue) และเหงือก มีสัตว์ไวรับ คือ เครย์ฟิชก้ามแดง (Cherax quadricarin) และกุ้งขาวแวนนาไม สำหรับ SHIV จะทำลายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด เม็ดเลือด (hemocyte) ในเหงือก ตับและตับอ่อน (hepatopancreas) ขาเดิน และกล้ามเนื้อของกุ้งขาวแวนนาไม ทั้งนี้ ไวรัสทั้งสองชนิดจัดอยู่ในวงศ์ Iridoviridae แต่เป็นสายพันธุ์ย่อยที่ต่างกัน ในปี 2562 คณะกรรมธิการด้านอนุกรมวิธานของไวรัส (International Committee on Taxonomy of Viruses; ICTV) ได้จัดให้ DIV1 อยู่ในสกุลใหม่ (genus) คือ Decapodiridovirus ซึ่งรวม CQIV และ SHIV เอาไว้ด้วย แม้ว่าไวรัสดังกล่าวไม่มีอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ แต่การระบาดของ DIV1 สร้างความเสียหายกับอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้งทะเลและกุ้งก้ามกรามในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนอย่างหนัก กุ้งก้ามกรามที่ติดเชื้อและเป็นโรคจะพบอัตราการตายสูง และพบลักษณะหัวขาว (white head) โดยสามารถสังเกตเห็นเป็นสามเหลี่ยมสีขาวภายใต้เปลือกส่วนบริเวณหัวกุ้ง ตรงบริเวณฐานของกรี หรือพบการเกิดจุดขาว (white spot) เนื่องจากไวรัสสามารถทำเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในตับและตับอ่อน Hepatopancreas) และเม็ดเลือดในอวัยวะอื่นๆ ทำให้เซลล์ตาย นอกจากนนี้ยังสามารถพบลักษณะป่วยอื่นๆ ประกอบด้วย ตัวแดง ตับและตับอ่อน ลีบและมีสีซีด กุ้งที่ติดเชื้อจะป่วยและตายที่พื้นก้นบ่อและมีอัตราการตายสะสมสูง 80% ทั้งนี้ การเลี้ยงกุ้งหลายชนิดรวมกัน (polyculture) ในบ่อเลี้ยง เช่น เลี้ยงกุ้งก้ามกรามรวมไว้กับกุ้งแวนนาไมจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการพบโรค อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลในปัจจุบันยังไม่พบว่ามีการถ่ายทอดเชื้อโรคจากแม่ไปยังลูกกุ้ง มีรายงานว่าสามารถพบเชื้อได้ที่อุณหภูมิ 16° ถึง 32°C แต่กรณีที่ อุณหภูมิสูงกว่า 32°C มักไม่พบไวรัสในกุ้ง การตรวจหาเชื้อ DIV1 ทำได้โดยการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ด้วยวิธี nested PCR หรือ real-time PCR สำหรับการหาสาเหตุของการระบาดยังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะสามารถสรุปสาเหตุได้ แต่ในเบื้องต้นมีการสันนิษฐานว่าสาเหตุของการระบาดมาจากแหล่งน้ำหรือการปนเปื้อนข้ามจากบุคคลที่เข้าออกฟาร์มเพาะเลี้ยงกุ้ง เรื่อง DIV1 นี้ยังต้องมีการศึกษาอีกมากหากมีความคืบหน้ายังไงจะมาเล่าต่อนะคะ
ที่มา (1) Qiu L, Chen X, Zhao RH, et al. Description of a Natural Infection with Decapod Iridescent Virus 1 in Farmed Giant Freshwater Prawn, Macrobrachium rosenbergii. Viruses. 2019;11(4):354. Published 2019 Apr 17. doi:10.3390/v11040354 (2) https://www.scmp.com/economy/china-economy/article/3079484/chinas-shrimp-farmers-terrified-deadly-virus-threatens Eighteenth Meeting of the Asia Regional Advisory Group on Aquatic Animal Health สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเม) |