
ความปลอดภัยทางชีวภาพในสถานประกอบการสัตว์น้ำของ OIE #3 ชื่อบทความ ความปลอดภัยทางชีวภาพในสถานประกอบการสัตว์น้ำของ OIE #3 คำสำคัญ ความปลอดภัยทางชีวภาพในสถานประกอบการสัตว์น้ำของ OIE จากคราวที่แล้วที่เราได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับหลักการทั่วไปของความปลอดภัยทางชีวภาพในสถานประกอบการสัตว์น้ำตามที่ OIE กำหนดไว้ทั้งหมด 6 หลักการ ก่อนที่จะเริ่มพิจารณาการดำเนินงานต่อไป OIE ได้แบ่งประเภทของสถานประกอบการสัตว์น้ำ/ระบบการผลิตสัตว์น้ำเอาไว้หลายรูปแบบโดยยึดตามศักยภาพของการจัดการเรื่องน้ำที่นำเข้ามาใช้ในสถานประกอบการสัตว์น้ำ/ฟาร์ม และการจัดการน้ำก่อนปล่อยออกนอกฟาร์ม ซึ่งรวมถึงขีดความสามารถของฟาร์มในการควบคุมสัตว์น้ำและพาหะ (Vector) ด้วย ทั้งนี้ ในการวางแผนจัดทำระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในสถานประกอบการสัตว์น้ำของ OIE จะต้องคำนึงถึงปัจจัยเรื่องการจัดการน้ำ การควบคุมสัตว์น้ำและพาหะด้วย โดย OIE ได้แบ่งประเภทของสถานประกอบการสัตว์น้ำ/ระบบการผลิตสัตว์น้ำ ดังนี้ 1. ระบบเปิด (open systems) ระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบเปิดจะไม่สามารถควบคุมน้ำ สภาพแวดล้อม สัตว์น้ำ หรือพาหะได้ ระบบการผลิตประเภทนี้อาจรวมไปถึงการเพิ่มจำนวนสัตว์น้ำในธรรมชาติที่นำมาจากสถานที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหรือจากสัตว์น้ำธรรมชาติ เนื่องจากระบบเหล่านี้ไม่สามารถจัดเป็นสถานประกอบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ OIE จึงไม่ได้มีการพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมในเนื้อหาเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพในสถานประกอบการสัตว์น้ำของ OIE อย่างไรก็ตาม OIE ระบุไว้ว่าควรมีการประเมินการเคลื่อนย้ายสัตว์น้ำระหว่างสถานที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและระบบเปิด เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถกำหนดความจำเป็นในการจัดการมาตรการในการลดการเกิดโรคสัตว์น้ำ 2. ระบบกึ่งเปิด (Semi-open systems) ระบบการผลิตการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบกึ่งเปิดจะไม่สามารถควบคุมน้ำที่เข้าหรือออกจากระบบ หรือสภาพแวดล้อมได้ นอกจากนี้ ในบางครั้งอาจพบว่าสัตว์น้ำและพาหะนำโรคบางชนิดอาจเข้าและออกจากระบบ ซึ่งตัวอย่างของระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบกึ่งเปิดนี้ ได้แก่ กระชัง กรงหรือกรงตาข่าย ตะกร้าแขวน หรือระบบเชือกสำหรับเลี้ยงหอยที่พบได้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ 3. ระบบกึ่งปิด (Semi-closed systems) ระบบการผลิตการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบกึ่งปิดจะมีสามารถควบคุมน้ำที่เข้าและออกจากระบบ และสภาพแวดล้อม รวมทั้งสัตว์น้ำและพาหะนำโรคเข้าและออกจากระบบได้ อย่างไรก็ตาม ในการควบคุมก็ยังมี ข้อจำกัดในการป้องกันการเข้าหรือออกของเชื้อก่อโรค ตัวอย่างของระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกึ่งปิด ได้แก่ บ่อ รางน้ำ/ร่องน้ำ (raceways) กล่อง/ถังลอยน้ำ (floating enclosures) และระบบการเลี้ยงแบบถัง/tank 4. ระบบปิด (closed systems) ระบบการผลิตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบปิด มีการควบคุมน้ำที่เข้าและออกจากระบบอย่างเพียงพอ สามารถแยกสัตว์น้ำ พาหะนำโรค และเชื้อก่อโรค รวมทั้งสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ ตัวอย่างของระบบการเพาะเลี้ยงแบบปิดจะรวมถึงระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบหมุนเวียน ระบบการผลิตที่มีน้ำที่ปลอดจากเชื้อก่อโรคหรือสัตว์น้ำ หรือระบบบำบัดน้ำของน้ำที่เข้าและออกจากระบบระดับสูง นอกจากนี้ OIE ยังมีการอ้างถึงเรื่องของการจัดการพื้นที่ หรือ Area management ด้วย ซึ่งหลายครั้งอาจเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อก่อโรคระหว่างสถานประกอบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบกึ่งเปิด หรือกึ่งปิดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันภายในแหล่งน้ำที่ใช้ร่วมกัน ในกรณีนี้สถานประกอบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่พิจารณาแล้วว่ามีความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยาควรใช้มาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพที่สอดคล้องกัน ข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดการพื้นที่จะทำให้การประสานงานที่เกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพร่วมกันในสถานประกอบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ครั้งหน้าเรามาดูกันว่าเชื้อก่อโรคจะสามารถเข้ามาในสถานประกอบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางไหนได้บ้าง และส่งผลกระทบอย่างไร และที่สำคัญคือเราจะมีวิธีการจัดการเพื่อลดผลกระทบได้อย่างไรบ้างนะคะ สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเม) |