ความปลอดภัยทางชีวภาพในสถานประกอบการสัตว์น้ำของ OIE #7
ชื่อบทความ ความปลอดภัยทางชีวภาพในสถานประกอบการสัตว์น้ำของ OIE #7 คำสำคัญ ความปลอดภัยทางชีวภาพในสถานประกอบการสัตว์น้ำของ OIE หลายๆ ท่านทราบกันดีกว่าในการเลือกใช้อาหารสัตว์น้ำ เราต้องรู้ความต้องการทางโภชนาการของสัตว์แต่ละชนิด แต่ละช่วงอายุและช่วงที่ให้ผลผลิตว่ามีความต้องการทางโภชนาการแตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่จะสามารถเลือกใช้อาหารสัตว์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและลักษณะตรงตามชนิด และช่วงชีวิตของสัตว์ได้ การปรับเปลี่ยนอาหารสัตว์ให้กินตรงตามความต้องการทางโภชนาการจะเป็นผลดีต่อสุขภาพสัตว์โดยรวมและทำให้การเลี้ยงประสบความสำเร็จ การเลือกใช้หัวอาหารสัตว์ หรือ พรีมิกซ์ ก็เช่นกันควรเลือกใช้ตรงตามชนิดและอายุสัตว์ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ การเลือกใช้อาหารสัตว์ที่มีคุณภาพดีเป็นไปตามหลักโภชนาการจะทำให้ได้ผลผลิตดีและช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าอาหารสัตว์ หรือ Feed เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการแพร่กระจายของเชื้อก่อโรคในฟาร์มหรือสถานประกอบการสัตว์น้ำได้เช่นเดียวกับเรื่องของสัตว์น้ำ ของเสียจากสัตว์น้ำ และน้ำที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว อาหารสัตว์อาจเป็นช่องทางในการแพร่เชื้อสู่สัตว์น้ำได้เช่นกัน โดยอาหารสัตว์ที่ผลิตจากสัตว์น้ำที่ติดเชื้ออาจพบเชื้อก่อโรค (โดยมากเป็นอาหารสด) ได้ หรือมีการปนเปื้อนเชื้อก่อโรคในระหว่างการเก็บเกี่ยวสัตว์น้ำ การขนส่ง การเก็บรักษา หรือการแปรรูป นอกจากนี้ หากมีการจัดการด้านสุขอนามัยที่ไม่ดี (Poor hygiene) อาจนำไปสู่การปนเปื้อนระหว่างการผลิต การขนส่ง การเก็บรักษา และการใช้อาหารสัตว์ ได้เช่นกัน ในระบบการผลิตแบบปิด (closed production systems) หรือแบบกึ่งปิด (semi-closed production system) เราสามารถดำเนินการจัดการควบคุมคุณภาพของอาหารสัตว์น้ำได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจะต่างจากระบบการผลิตแบบกึ่งเปิด (semi-open production systems) ที่จะควบคุมคุณภาพของอาหารสัตว์น้ำได้ยากกว่า ซึ่งกรณีที่เป็นการเลี้ยงแบบกึ่งเปิดนั้น สัตว์น้ำสามารถกินอาหารจากสิ่งแวดล้อมได้ เช่น หอยที่ปนอยู่ในแหล่งน้ำที่เลี้ยง หรือลูกปลาเล็กๆ อื่น ที่หลุดเข้ามาในกระชังที่เลี้ยงปลา ควรมีการประเมินความเสี่ยงของการแพร่เชื้อก่อโรคผ่านทางอาหารสัตว์น้ำ และมีการจัดการโดยคำนึงถึงมาตรการลดผลกระทบที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยมาตรการลดผลกระทบจากอาหารและวัตถุดิบที่ใช้ผสมอาหารสัตว์น้ำที่ควรคำนึงถึงมีดังนี้ค่ะ 1. อาหารสัตว์น้ำและวัตถุดิบ: อาหารสัตว์น้ำและวัตถุดิบได้ผ่านกระบวนการที่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะทำลายเชื้อก่อโรคได้ เช่น การให้ความร้อนที่เหมาะสมในการทำลายเชื้อก่อโรค 2. แหล่งที่มาของอาหารสัตว์น้ำและวัตถุดิบ: อาหารสัตว์น้ำและวัตถุดิบมาจากแหล่งที่ปลอดเชื้อก่อโรคที่กังวล หรือได้รับการทดสอบยืนยันให้มั่นใจแล้วว่าไม่มีเชื้อก่อโรค เช่น ใช้อาหารสัตว์น้ำและวัตถุดิบจากประเทศ หรือเขตที่ปลอดจากเชื้อก่อโรค 3. การผลิตอาหารสัตว์น้ำและวัตถุดิบ: อาหารสัตว์น้ำและวัตถุดิบต้องผ่านกรรมวิธี การผลิต การจัดเก็บ การขนส่งที่ถูกต้องและเหมาะสมในการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อสารก่อโรค ก่อนนำไปให้สัตว์น้ำกิน วันนี้ขอจบบทความลงเท่านี้ก่อนนะคะ รอบหน้าจะเป็นเส้นทางไหนบ้างที่มีความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อก่อโรคในฟาร์มหรือสถานประกอบการสัตว์น้ำมาติดตามกันต่อไปค่ะ สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเมย์) |