
การป้องกันดีกว่าการรักษา วัคซีนคุณภาพ หยุดการระบาดของโรคสัตว์ ชื่อบทความ การป้องกันดีกว่าการรักษา วัคซีนคุณภาพ หยุดการระบาดของโรคสัตว์ คำสำคัญ การป้องกัน วัคซีน การระบาด สวัสดีผู้อ่านชาวฟาร์มอีกครั้ง ช่วงนี้หวังว่าทุกท่านก็ยังคงรักษาสุขภาพกันอย่างดีเยี่ยมเหมือนเดิม ถ้ายังอยู่ในประเทศไทยก็ยังคงต้องใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และพกแอลกอฮอล์ติดกระเป๋ากันไว้เพื่อความปลอดภัย ในขณะเดียวกันหลายคนที่ติดตามข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัสในต่างประเทศ อาจอ่านข่าวเจอว่าหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหภาพยุโรป และเพื่อนบ้านอาเซียนของไทย เช่น เวียดนาม สิงคโปร์ ได้ออกประกาศยกเลิกการสวมหน้ากากในที่สาธารณะเรียบร้อยแล้ว โดยให้เหตุผลว่าสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้ในระดับที่สามารถบริหารจัดการระบบสาธารณสุขของประเทศได้แบบไม่มีความสูญเสียมากเหมือนในช่วงแรกๆ ของการระบาดโรค หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้แต่ละประเทศควบคุมไม่ให้เกิดความสูญเสียจากโรคได้ดีมากขึ้นก็คือการนำวัคซีนมาใช้ในการป้องกันโรคนั่นเอง การเกิดโรคโควิด 19 ก็ทำให้หลายๆ คนเข้าใจในเรื่องความสำคัญการทำวัคซีนมากขึ้นเพราะเห็นได้ชัดเจนว่าการทำวัคซีนสามารถลดความรุนแรงและความสูญเสียเมื่อเกิดการระบาดของโรคได้จริง หลายๆ ท่านตอนนี้อาจได้รับวัคซีนมากกว่า 2 เข็ม หรือ 3 เข็ม เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถป้องกันความรุนแรงของไวรัสได้ ในกรณีที่อาจติดเชื้อ วัคซีนจะทำให้อาการของโรคไม่รุนแรงและสามารถรักษาให้หายได้โดยที่ไม่มีผลกระทบถึงปอดซึ่งเป็นอวัยวะเป้าหมายของเชื้อไวรัส สำหรับโรคในสัตว์ก็เช่นเดียวกัน การใช้หลักการเรื่องของการป้องกันดีกว่าการรักษา ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญอันดับ 1 ในการรักษาสุขภาพสัตว์ให้แข็งแรง เมื่อไม่นานมานี้องค์การสุขภาพสัตว์โลกก็ได้ตีพิมพ์บทความในเวปไซต์ที่ยังคงเน้นย้ำในเรื่องนี้เอาไว้ว่า “Prevention is better than a cure” การให้วัคซีนป้องกันโรคแก่สัตว์ด้วยการฉีดวัคซีน เมื่อมีวัคซีนเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรค และยกตัวอย่างโรค Rinderpest ที่ถูกกำจัดไปหมดทั้งโลกอย่างสมบูรณ์ด้วยมาตรการการฉีดวัคซีน โรค Rinderpest ครั้งหนึ่งเคยเป็นโรคระบาดที่ร้ายแรงสร้างความสูญเสียในปศุสัตว์อย่างมาก โรคระบาดสัตว์หลายๆ โรค เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรค Peste des petits ruminants ในสัตว์เคี้ยวเอื้อง หรือโรคปากและเท้าเปื่อย (Foot and mouth disease, FMD) ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการให้วัคซีนที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม คุณภาพของวัคซีนอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการสร้างภูมิคุ้มกัน การฉีดวัคซีนสัตว์ให้ได้ผลในการป้องกันโรคที่ดี ต้องให้วัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย โดยคำนึงถึงปัจจัยในการเก็บรักษาและการขนส่งเพื่อรักษาคุณสมบัติของวัคซีนไว้ ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพสัตว์ ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การดำรงชีวิต ความมั่นคงด้านอาหาร การค้าระหว่างประเทศ และบางครั้งมีผลต่อสุขภาพของมนุษย์และสังคมตามมาเมื่อเกิดโรคระบาดสัตว์ องค์การสุขภาพสัตว์โลกร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรและผู้บริจาค ได้ตั้งเป้าหมายที่จะจัดหาและส่งมอบวัคซีน สำหรับสัตว์ที่มีคุณภาพสูงไปยังประเทศที่มีความต้องการใช้วัคซีน เพื่อจัดการกับโรคระบาดในสัตว์ทั่วโลก โดยการจัดตั้งธนาคารวัคซีน หรือ vaccine bank ขึ้นมา ธนาคารวัคซีนแห่งแรกก่อตั้งขึ้นเพื่อควบคุมโรคไข้หวัดนกในปี 2549 และองค์การสุขภาพสัตว์โลกได้ช่วยเหลือสมาชิกในการแก้ไขปัญหาโรคสัตว์หลายชนิด ธนาคารวัคซีนขององค์การสุขภาพสัตว์โลกจะอนุญาตให้จัดหาและส่งเฉพาะวัคซีนคุณภาพสูงที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่องค์กรได้กำหนดไว้อย่างรวดเร็วและในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป วัคซีนจะถูกจัดส่งออกไปอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ประเทศที่ได้รับการช่วยเหลือจึงสามารถมุ่งเน้นการจัดการประเด็นสำคัญด้านอื่นๆ ในการจัดการโรคของประเทศได้มากขึ้น เช่น การสร้างความตระหนัก การฝึกอบรมผู้ฉีดวัคซีน หรือการปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพให้เข็มแข็ง เป็นต้น จากที่อ่านมาจะเห็นได้ว่าการจัดการด้านวัคซีนที่เกิดขึ้นในสัตว์นั้น ก็มีการดำเนินงานที่คล้ายคลึงกันระหว่างองค์การสุขภาพสัตว์โลก และองค์การอนามัยโลก (WHO) ใช่ไหมคะ เพราะมีจุดมุ่งหมายในด้านการรักษาสุขภาพของสิ่งมีชีวิตเหมือนกัน ฉบับหน้าจะเล่าเรื่องอะไรค่อยมาติดตามกันค่ะ สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเมย์) |