วิตามินซีคนทานได้ ปลากินดี
รหัสบทความ 194 ชื่อบทความ วิตามินซีคนทานได้ ปลากินดี สวัสดีท่านผู้อ่านชาวฟาร์มทุกท่าน ช่วงที่ผ่านมาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ได้ทานวิตามินซีป้องกันหวัดกันบ้างมั้ยคะ รู้หรือไม่ว่านอกจากวิตามินซีจะช่วยเสริมภูมิต้านทานแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ชะลอริ้วรอย และช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวพรรณได้ ประโยชน์มากมายขนาดนี้ ถ้าเรานำมาเสริมในอาหารให้ปลานิล จะส่งผลต่อตัวปลาอย่างไรบ้าง มีมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ค่ะ จากการทดลองเสริมวิตามินซีในอาหาร โดยนักวิจัยชาวอียิปต์ Ibrahim และคณะในปี 2022 ที่ได้ทำการทดลองเลี้ยงลูกปลานิลขนาดตัวน้ำหนัก 15 กรัม แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ให้ปลาได้รับวิตามินซีผสมอาหารในปริมาณแตกต่างกันที่ 0 มิลลิกรัม, 200 มิลลิกรัม, 300 มิลลิกรัม และ 400 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม เป็นเวลาทั้งสิ้น 10 สัปดาห์ ผลการทดลองพบว่าวิตามินซีส่งผลดีต่อสุขภาพของปลานิลในหลากหลายด้าน ดังนี้ ด้านการการเจริญเติบโต ผลการทดลองนี้ชี้ให้เห็นว่าปลานิลที่ได้รับวิตามินซี มีน้ำหนักตัวมากกว่าปลาที่ไม่ได้รับวิตามินซีอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งผลของน้ำหนักตัวรวม (total weight gain) และน้ำหนักตัวที่เพิ่มต่อวัน (daily weight gain) เป็นผลอันเนื่องมาจากวิตามินซีมีส่วนในการเพิ่มระดับโกรทฮอร์โมน (growth hormone) ในกระแสเลือด อ้างอิงจากผลการทดลองที่พบว่าปลาในกลุ่มที่ได้รับวิตามินซี มีระดับ growth hormone เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในปลากลุ่มที่ได้รับวิตามินซี 400 มิลลิกรัม นักวิจัยตรวจพบ growth hormone ในซีรัมในระดับสูงที่สุด ซึ่งหน้าที่ของ growth hormone คือควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกาย จึงส่งผลให้ปลามีน้ำหนักตัวดีขึ้นนั่นเองค่ะ ด้านภูมิคุ้มกัน วิตามินซีมีส่วนช่วยกระตุ้นการต้านอนุมูลอิสระ จากการไปกระตุ้นเอนไซม์กลุ่มที่ทำหน้าที่กำจัดสารอนุมูลอิสระต่าง ๆ ที่มีอยู่ในร่างกาย จากการทดลองนี้นักวิจัยพบว่าเอนไซม์กลุ่มที่ทำหน้าที่ดังกล่าวในซีรัมของปลาที่ได้รับวิตามินซี มีอยู่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้ปลาสามารถต้านการอักเสบได้ดีขึ้น อีกทั้งยังพบว่าเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันของปลามีการทำงาน มีกิจกรรมมากขึ้น ทั้งเซลล์ที่ทำหน้าที่เก็บกินสิ่งแปลกปลอม และเซลล์ชนิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านเชื้อโรค และเมื่อนักวิจัยทดลองให้เชื้อก่อโรค Aeromonas sobria ผลปรากฏว่าปลาสามารถต่อต้านการป่วยจากเชื้อดังกล่าวได้ และมีอัตราการรอดชีวิตที่มากขึ้นอีกด้วย ด้านการย่อยและดูดซึมสารอาหาร นักวิจัยพบว่าลำไส้เล็กที่ทำหน้าที่สำคัญในการย่อยและดูซึมสารอาหารของปลาที่ได้รับวิตามินซี มีโครงสร้างของ villus ที่กว้างและยาวกว่าปลาที่ไม่ได้รับวิตามินซี จึงเป็นสาเหตุที่ทำ ให้ปลามีความสามารถในการดูดซึมเพื่อนำสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น สามารถทำน้ำหนักตัวได้ดีขึ้นตามมา รวมไปถึงมีปราการต่อต้านการรุกรานของเชื้อก่อโรคในทางเดินอาหารที่แข็งแรงขึ้นอีกด้วย โดยสรุปแล้ววิตามินซีมีประโยชน์หลายประการเลยนะคะ สำหรับตัววิตามินซีที่ใช้ในการทดลองนี้ นักวิจัยใช้ L-ascorbic acid phosphate ที่ผลิตในประเทศอียิปต์ มาทำการทดลอง ส่วนปริมาณที่ใช้แล้วให้ผลการทดสอบดีที่สุด คือผสมวิตามินซีปริมาณ 400 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม และนักวิจัยยังได้บ่งชี้ด้วยว่าความเข้มข้นมีผลต่อประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ของวิตามินซี เหมือนกับที่หลายท่านทราบทั่วไปว่าแพทย์มักจะแนะนำให้คนปกติทานวิตามินซีให้ถึงปริมาณที่ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการต้านหวัดนะคะ
สำหรับเรื่องวิตามินซีในวันนี้หวังว่าฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านค่ะ แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเมย์) |