การคาดหมาย

ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. - 2 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นโดยมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะคลายความร้อนลง ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 เม.ย ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนลดลง สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 2-6 เม.ย. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 2-5 เม.ย.

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย. ประชาชนที่อาศัยในบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนหนักส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา

ในช่วงวันที่ 31 มี.ค. - 4 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นโดยมีพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง

ส่วนในช่วงวันที่ 5- 6 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงมีกำลังอ่อนลงในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะนี้ สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 2-6 เม.ย. ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นทำให้บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 2-5 เม.ย.สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ข้อมูลจาก :  https://www.tmd.go.th/7-day_forecast.ph

สถานการณ์น้ำในเขื่อน

ภาคเหนือ เขื่อนภูมิพล 45%, เขื่อนสิริกิต 55%

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขื่อนลำปาว 33%, เขื่อนลำตะคอง 27%, เขื่อนอุบลรัตน์ 53%, เขื่อนสิริธร 61%, เขื่อนมูลบน 42%, เขื่อนลำแซะ 33%

ภาคกลาง เขื่อนป่าสัก 40%, เขื่อนกระเสียว 73%

ภาคตะวันออก เขื่อนประแสร์ 42%

ข้อมูลจาก :  http://www.thaiwater.net//DATA/REPORT/php/rid_bigcm.html