เนื่องจากปลาเป็นสัตว์ที่อาศัยน้ำเป็นหลักในการดำรงชีวิตน้ำจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลาถ้าคุณภาพน้ำเหมาะสมจะทำให้ปลามีสุขภาพดีและช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของปลา ดังนั้น รูปแบบการจัดการการเลี้ยงเช่น ความสมดุลของอาหารและการให้อาหาร ความหนาแน่นของปลาในบ่อ มลพิษแหล่งน้ำทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งวิธีการจัดการคุณภาพน้ำเช่น อุณหภูมิ ปริมาณออกซิเจนที่ละลายน้ำ ค่าความเป็นกรด ด่าง แอมโมเนียและไนไตรท์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากและสัมพันธ์กับความเสี่ยงของการเกิดโรค

โดยสภาพแวดล้อมที่แย่ส่งผลให้สุขภาพของปลาผิดปกติได้ง่ายการจัดการคุณภาพน้ำจึงเป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจเพื่อป้องกันการเกิดโรคในปลาต้องจัดการคุณภาพน้ำให้เหมาะสมกับการเลี้ยงโดยสุ่มตรวจคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งตรวจสอบชนิดของแพลงตอนที่พบด้วยน้ำที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงปลาตามทฤษฎีควรมีค่าความเป็นกรดด่าง (pH) อยู่ระหว่าง 6.5 - 8 และมีปริมาณค่าออกซิเจนในน้ำ (Dissolved Oxygen หรือ DO) ไม่ต่ำกว่า 5 ppm ค่าแอมโมเนีย (NH 3 ) และไนไตรท์ (Nitrite) ไม่ควรเกิน 0.2 ppm และค่าความเป็นด่าง (alkalinity) ไม่ต่ำกว่า 50 ppm สำหรับบางครั้งอาจใช้สารเคมีช่วยปรับสภาพและคุณภาพน้ำให้มีค่าคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ เช่น จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียในบ่อเลี้ยงปลาโดยกระจายการใช้ให้ทั่วพื้นที่รอบบ่อเลี้ยงปลาเพื่อให้จุลินทรีย์ได้เข้าถึงและย่อยสลายของเสียได้อย่างทั่วถึงทุกจุด ที่ฟาร์มของท่านมีการจัดการคุณภาพน้ำอย่างไรกันบ้างคะมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

สัตวแพทย์หญิง ดร.มินตรา ลักขณา (หมอเม)
อ.น.สพ.ดร. ภัทรพล เปี่ยมสมบูรณ์ (หมอเอก)

Mintra Lukkana, DVM, MSc, PhD
Pathradol Piamsomboon , DVM , PhD