คุณพิชัย พุมมีดี
คุณพิชัย พุมมีดี เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลแดงในกระชัง จังหวัดนครนายก วันนี้ทางฟาร์มได้ไปเยี่ยมลูกค้าที่เลี้ยงปลากระชัง ในจังหวัดนครนายกกันคะ ซึ่งจังหวัดนครนายกเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีการเลี้ยงปลากระชังบริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งวันนี้เราไปเยี่ยมชมกระชังปลาของคุณพิชัย พุมมีดี หรือที่เราเรียกกันว่า พี่ป้อม โดยปกติเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง จะนิยมเลี้ยงปลาในกระชังขนาด 5 x 5 เมตร อัตราการปล่อย 2,000 - 2,500 ตัวต่อกระชัง ซึ่งทางพี่ป้อมเล็งเห็นว่าอัตราการปล่อยปลาน่าจะปล่อยปลาได้มากกว่านี้ เลยทดสอบการลงปลากระชังละ 4,000 ตัว ผลปรากฏว่าปลาที่เลี้ยงไว้ตามขนาดที่ทดสอบ ได้ปลาทั้งหมด 3,300 - 3,500 กิโลกรัมต่อกระชัง จากเดิมที่ปล่อยกระชังละ 2,000 - 2,500 ตัว จะได้ปลา 1,800 - 2,000 กิโลกรัม ซึ่งได้ผลตอบแทนมากกว่า จึงทำให้พี่ป้อมมีแนวความคิดใหม่โดยเพิ่มขนาดกระชังจาก 5 x 5 เมตร เป็น 5 x 10 เมตร แล้วเพิ่มจำนวนปลาเป็น 14,000 ตัวต่อกระชัง จากนั้นได้เริ่มทดสอบการเลี้ยงตามแผนที่วางไว้ ผลปรากฏว่าปลาที่เลี้ยงได้น้ำหนักปลา รวมทั้งหมด 15,000 กิโลกรัม ราคาปลาเนื้อตอนจับอยู่ที่ 73 บาทต่อกิโลกรัม ผลกำไรโดยหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วอยู่ที่ 539,500 บาทต่อกระชัง เราลองไปดูเทคนิคการเลี้ยงของพี่ป้อมกันนะคะ ว่าแนวความคิดใหม่จะให้ผลกำไรอย่างไรบ้าง ซึ่งเราได้แยกขนาดกระชังให้เห็นอย่างชัดเจนกันเลยทีเดียว ต้นทุน ขนาดกระชัง 5x5 ค่าอาหาร (บ. เบทาโกร BIO-632) ราคา 475 บาท (อาหาร 200 กระสอบ) รวมเป็นเงิน 200*475 = 95,000 บาท ค่าลูกปลา 4,000 ตัว ตัวละ 2 บาท รวมเป็นเงิน 4,000*2 = 8,000 บาท ยา+วิตามิน รวมเป็นเงิน = 3,000 บาท รวมต้นทุนทั้งหมด 95,000+8,000+3,000 = 105,000 บาท จับปลาเฉลี่ย 3,300 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 73 บาท รวมเป็นเงิน = 240,900 บาท ผลตอบแทน/กระชัง รวมเป็นเงิน = 135,900 บาท
ต้นทุน ขนาดกระชัง 5x10 ค่าอาหาร (บ. เบทาโกร BIO-632) ราคา 475 บาท (อาหาร 1,100 กระสอบ) รวมเป็นเงิน 1,100*475 = 522,5000 บาท ค่าลูกปลา 14,000 ตัว ตัวละ 2 บาท รวมเป็นเงิน 14,000*2 = 28,000 บาท ยา+วิตามิน รวมเป็นเงิน = 5,000 บาท รวมต้นทุนทั้งหมด 522,500+28,000+5,000 = 555,500 บาท จับปลาเฉลี่ย 15,000 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 73 บาท เป็นเงินทั้งหมด = 1,095,000 บาท
ผลตอบแทน/กระชัง 1,095,000 – 555,500 = 539,500 บาท |