ความกระด้างของน้ำในบ่อเลี้ยงปลา
ความกระด้าง หรือความกระด้างของน้ำ (hardness หรือ water hardness) เป็นค่าที่บ่งบอกปริมาณของเกลือแคลเซียม (Ca 2 +) และแมกนีเซียม (Mg 2 +) ที่ละลายน้ำ ปกติแล้วค่า hardness ที่เรามักจะวัดกันเป็นการวัดค่าความกระด้างรวม หรือ total hardness ที่มีหน่วยมิลลิกรัมต่อลิตร (mg/L) สำหรับค่าความกระด้างของน้ำที่เหมาะสมกับการเลี้ยงปลาจะอยู่ในช่วงประมาณ 50-250 mg/L แต่ในแหล่งน้ำธรรมชาติค่า total hardness ที่เราพบได้จะมีค่าอยู่ที่น้อยกว่า 5 ถึงมากกว่า 10,000 mg/L และค่าความกระด้างของน้ำสามารถแบ่งระดับได้ 4 ระดับ ก็คือ ระดับต่ำที่ค่า 0–75 mg/L (น้ำอ่อน soft) ระดับกลางมีค่าตั้งแต่ 75–150 mg/L (น้ำกระด้างปานกลาง, moderately hardness) ระดับสูงมีค่าตั้งแต่ 150–300 mg/L (น้ำกระด้าง, hard) และระดับสูงมากที่มีค่า > 300 mg/L (น้ำกระด้างมาก, very hard) ซึ่งค่าความกระด้างของแหล่งน้ำแต่ละที่ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิศาสตร์ คุณสมบัติและลักษณะของดินและหินในพื้นที่นั้นเป็นสำคัญ และสามารถเกิดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีในบรรยากาศหรือเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มาจากการย่อยทำลายอินทรียสารของแบคทีเรียผสมกับน้ำแล้วกลายเป็นกรดอ่อนไหลผ่านชั้นหินที่มีคุณสมบัติเป็นด่างแล้วละลายชั้นหินที่มี calcium carbonate นั้นลงสู่แหล่งน้ำ ทำให้น้ำมีความกระด้าง การใส่ปูนขาวสามารถทำให้น้ำมีค่าความกระด้างเพิ่มขึ้นได้ แต่ถ้าเกิดว่าน้ำมีค่าความกระด้างมากเกินไปอาจพิจารณาติดตั้งเครื่องกรองน้ำหรือมีวิธีบำบัดน้ำโดยมีการพักน้ำก่อนนำมาใช้ นอกจากนี้ ค่าความกระด้างมีความสัมพันธ์กับค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) และค่าความเป็นด่าง (alkalinity) ของน้ำด้วยดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการตรวจสอบและพิจารณาค่าคุณสมบัติ คุณภาพน้ำหลายๆ ค่าพร้อมกัน
Hardness or maybe referred to as water hardness, is a parameter that represents a total amount of salt, calcium (Ca 2 +) and magnesium (Mg 2 +) in the water.
- Soft (0–75 mg/L) - Moderately hard (75–150 mg/L) - Hard (150–300 mg/L) - Very hard (> 300 mg/L) Level of hardness in fish pond is significantly influenced by pond location and types of soil or mineral. Amount of CO 2 in the air also has some influence to water hardness.
Mintra Lukkana, DVM, MSc, PhD |